ปริญญานิพนธ์
ของ
วรัญญา ศรีบัว
💥วัตถุประสงค์ของการวิจัย
จะทำให้ทราบถึงความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้กระดุมเพื่อเป็นแนวทางสำหรับครูผู้ปกครองและผู้ที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและพัฒนาความ
สามารถด้านมิติสัมพันธ์ตลอดจนการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
💥ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
-
ทำให้ทราบถึงความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ท่ำด้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระดุม
- เพื่อเป็นแนวทางสำหรับครู ผู้ปกครอง
💥สมมุติฐานการวิจัย
เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระดุมมีความสามารถด้านมิติสัมพันธ์สูงขึ้น
🌏วิธีดำเนินการวิจัย🌍
💥ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชาย – หญิง อายุระหว่าง 4-5 ปี
ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 ของโรงเรียนตันตรารักษ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต3 จำนวน 90 คน
💥กลุ่มตัวอย่าง
นักเรียนชาย –
หญิง ที่มีอายุระหว่าง 4 – 5 ปี
ที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นอนุบาลปีที่ 2
ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนตันตรารักษ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต3
จำนวน 20คน
ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน คือจับสลากเลือกนักเรียนมา 1
ห้องเรียน แล้วจึงจับสลากนักเรียน
จากห้องนั้นมากลุ่มตัวอย่างจำนวน 20
คน
💥เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1.แผนการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์โดยใช้กระดุม
2.แบบทดสอบความสามารถด้านมิติสัมพันธ์
🌍การดำเนินการวิจัย🌏
ในการวิจัยครั้งนี้
ผู้วิจัยได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1.
การกำหนดประชากรและการสุ่มตัวอย่าง
2.
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
3.
การเก็บรวบรวมข้อมูล
4.
การจัดกระทำและการวิเคราะห์ข้อมูล
💥การวิเคราะห์ข้อมูล
1.ใช้ค่าสถิติ
t-test สำหรับกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระจากกันในการเปรียบเทียบความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของเด็กปฐมวัยก่อน
และหลังการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยใช้กระดุม
2.ใช้สถิติร้อยละอธิบายการเปลี่ยนแปลงความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของเด็กปฐมวัยในการทำกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระดุม
💥สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
1. สถิติพื้นฐาน
2. สถิติที่ใช้ในการหาคุณภาพของเครื่องมือ
3.สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐาน
🌍สรุปผลการวิจัย🌏
1.ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ของเด็กปฐมวัยหลังการทดลองทำกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระดุม
โดยรวมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
และเมื่อจำแนกรายด้าน
พบว่าความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ด้านการจำแนกความเหมือนความต่าง
ด้านความสัมพันธ์ของตำแหน่งวัตถุและด้านลักษณะร่วมของวัตถุสิ่งของ
สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01
2.เด็กปฐมวัยมีความสามารถด้านมิติสัมพันธ์หลังการทดลองทำกิจกรรมศิลปสร้างสรรค์โดยใช้กระดุม
โดยรวมมีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 90.00
ของเด็กปฐมวัยทั้งหมด และเมื่อจำแนกรายด้านพบว่า
เด็กปฐมวัยมีการเปลี่ยนแปลงความสามารถด้านมิติสัมพันธ์สูงขึ้นในด้านความสัมพันธ์ของตำแหน่งวัตถุ
มากเป็นอันดับแรก (ร้อยละ 100.00)
รองลงมาคือ ด้านการจำแนกความเหมือนความต่าง (ร้อยละ 85.00)
และด้านลักษณะร่วมของวัตถุสิ่งของ (ร้อยละ 80.00)
ตามลำดับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น